วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2552

Warhammer Dawn of War: Dark Crusade





Warhammer Dawn of War: Dark Crusade ภาคเสริมสุดดุเดือดเผ็ดมันส์




ประเภท: Real Time Strategyผู้พัฒนา: Relic Entertainment ผู้ผลิต: THQผู้จัดจำหน่าย: New Era โทร 0-2677-3511-5รายละเอียดของภาคเสริมลำดับที่ 2 ของเกม RTS ดุเดือดแห่งปี 2004 เป็นเวลากว่า 2 ปี เต็มแล้ว ที่ผมยังคงวนเวียนอยู่ใน Server ของเกม Warhammer 40K: Dawn of War ซึ่งนับว่าเป็นเวลาค่อนข้างยาวนานทีเดียวครับสำหรับเกมๆ นึง คงพูดได้ว่าผมกลายเป็นแฟนของ Warhammer 40K ไปซะแล้ว และก็ไม่มีอะไรที่น่ายินดีไปกว่าการที่ ภาคเสริมตัวที่ 2 ของเกมนี้จะออกมาให้ผมและแฟนๆ ทุกท่านได้สัมผัสกันในเร็วๆ วันนี้แล้ว สำหรับ Dark Crusade จะเป็นภาคเสริมแบบ Stand Alone คือไม่ต้องการเกม Dawn of War ภาคหลักในการติดตั้ง แต่ถ้าคุณลงแค่ Dark Crusade ก็จะสามารถเล่นได้แค่ 2 เผ่าใหม่เท่านั้นในโหมด Online แต่ถ้าคุณลงทั้ง Dawn of War และ Winter Assualt (ภาคเสริมตัวแรก) ด้วยแล้วละก็ คุณจะสามารถเล่นได้ทั้งหมด 7 เผ่าเลยด้วยกัน2 เผ่าใหม่ที่เพิ่มเข้ามาก็คือ Tau และ Necron ที่เราอาจจะได้เห็นไปแล้วบ้างในโหมด Campaign ของ Winter Assualt โดยเนื้อเรื่องในภาคนี้จะเกิดขึ้นที่ดาว Kronus ที่เต็มไปด้วยทะเลทราย สำหรับ Tau เผ่าหุ่นยนต์ที่หลายคนอาจได้ลองเล่นไปแล้วใน Demo โดยหลักๆ แล้วการเล่นของ Tau จะคล้ายๆ กับ Space Marine โดยจะแยกสายการเล่นในระดับเทคโนโลยีแรกเป็น 2 สายก็คือ Kroot ที่เน้นโจมตีประชิดตัว และ Combat Unit ที่เน้นการโจมตีระยะไกล (มาก) แต่การอัพเกรตระดับของเทคโนโลยี จะใช้การสร้างสิ่งก่อสร้างแทนการอัพเกรตที่ฐานหลัก (คล้ายกับ Eldar) ส่วน Tau Commander ยูนิตฮีโร่ของ Tau อาจจะดูอ่อนแอในตอนแรก แต่สามารถอัพเกรตอาวุธเพื่อการโจมตีที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นได้ ส่วนยูนิต Vehicle ของทาง Tau อย่าง Drone Harbinger จะสามารถปล่อยหุ่น Drone ออกมาจากยานเพื่อโจมตีศัตรูได้อีกด้วยส่วน Necron เผ่าหุ่นเหล็กผีดิบ จะมีการเล่นที่แตกต่างออกไป เพราะยูนิตแทบจะทั้งหมดของ Necron จะสร้างที่ Monolith (ยูนิตปราการทรงปิรามิด) ซึ่งฐานหลักหรือ Monolith สามารถอัพเกรตให้เหาะกลางอากาศและโจมตีฆ่าศึกได้อีกด้วย แถมด้วยพลังชีวิตอันมหาศาล (คาดว่าพลังชีวิตของ Monolith น่าจะมากถึง 10,000 หน่วย เลยทีเดียว) แถมการพัฒนาระดับเทคโนโลยีของ Necron ก็ยิ่งแปลกประหลาดไม่เหมือนใครโดยเมื่อสร้าง Listening Post ที่จุด Strategic Point 1 แห่งจะเพิ่มความเร็วในการสร้างสิ่งก่อสร้างและ TechSpeed 20% และเนื่องจากว่ายูนิตของ Necron ค่อนข้างจะเคลื่อนที่ได้เชื่องช้า ดังนั้นความสามารถในการต่อสู้จึงนับว่ามากกว่าเผ่าอื่นๆ มากเป็นพิเศษ แถม Necron Lord ยังมีพลังพิเศษอีกหลายอย่างให้เลือกใช้ และ 1 ในนั้นก็คือ Resurrection Orb ที่สามารถปลุกเหล่า Necron ที่ตายไปแล้วให้กลับคืนชีพขึ้นมาใหม่ได้อีกด้วย เรียกว่าน่ากลัวมากๆ ครับส่วนเผ่าอื่นๆ ก็มีการเพิ่มยูนิตใหม่ๆ เข้าไปเช่นกัน โดยทาง Chaos จะเพิ่ม Demon Prince ซึ่งเป็น Uber Unit โดยจะสามารถสร้างได้ในระดับเทคโนโลยีที่ 3 ทาง Imperial Guard จะได้ Heavy Weapon Team หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ป้อมปืนเคลื่อนที่ได้นั่นเองทางเผ่า Ork จะได้ยูนิต Flash Gitz ซึ่งเน้นการจู่โจมระยะไกล ทาง Space Marine จะได้ Gray Knight ซึ่งเป็นยูนิตกึ่งฮีโร่คือสร้างได้จำกัด เช่นเดียวกับ Harlequain ของทาง Eldar ซึ่งมีท่าในการโจมตีศัตรูเป็นหมู่และเคลื่อนไหวได้รวดเร็วยังไม่หมดแค่นั้นครับ ที่สำคัญก็คือ ใน DC จะเพิ่มโหมดการเล่นใหม่นั่นก็คือโหมด Conquest หรือการเล่นชิงพื้นที่อย่างที่เราเคยเห็นมาแล้วในโหมด War of the Ring ของเกม LOTR:BFME 2 นั่นเอง ซึ่งทำให้การเล่น Skirmish นั้นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และทำให้โหมด Campaign เป็นแบบ nonlinear คือคุณสามารถเลือกเส้นทางได้ว่าจะโจมตีพื้นที่ไหนก่อน และขึ้นกับเผ่าที่เลือกด้วยนอกจากนั้นยูนิตฮีโร่ ยังสามารถทำการ Customize หรือปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ อย่างเช่นอาวุธได้อีกด้วยสิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับเกมซีรี่ย์นี้ก็คือเรื่องความสมดุลของแต่ละเผ่า ซึ่งค่อนข้างโดนวิพากย์วิจารณ์มากพอสมควร และใน DC จะมีเผ่าทั้งหมดรวมทั้งสิ้น 7 เผ่าซึ่งสามารถเล่นออนไลน์ได้ ซึ่งก็อาจจะเป็นการยากซักหน่อยในการปรับสมดุลให้ลงตัว แต่ในฐานะแฟน Warhammer 40K คนหนึ่ง ผมคงไม่พลาดภาคเสริมตัวนี้แน่

ข้อมูลจาก http://www.online-station.net

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ชุมชน เพื่อสังคมมหาชน Tips คอมพิวเตอร์ Hi5 SEO ขำขัน รูปภาพ

สนุก! ข่าวไอที

ชมภาพ วิดิโอ ตัวอย่าง เกมส์ AION