R.Y.L ย่อมาจาก Risk Your Life เกมแนว War RPG ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับการสู้รบระหว่างเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ และมนุษย์กลายพันธุ์ หรือที่เรียกกันว่า "อสูร" เนื้อเรื่องจะพูดถึงการขยายดินแดนของแต่ละเผ่าพันธุ์จนสุดท้ายเรื่องราวก็มาจบลงที่คำว่า "สงคราม"
อาณาจักรคาร์ลัวเทอร์ลัน (Ka Luo Te Lan Kingdom) เป็นอาณาจักรแห่งหนึ่งบนแผ่นดินใหญ่ซึ่งมีแต่สงคราม การแย่งชิง การรุกราน มาเป็นเวลาช้านานความเสียหายปกคลุมไปทุกหย่อมหญ้าดินแดนต่างๆ บนแผ่นดินนี้จึงต้องประสบกับความทุรกันดารไม่สามารถใช้ผืนดิน เพื่อการดำรงชีพอย่างผาสุขได้ พระราชาจึงทรงตัดสินใจสละแผ่นดินแห่ง อาณาจักรคาร์ลัวเทอร์ลัน (Ka Luo Te Lan Kingdom) แห่งนี้ เพื่อหาดินแดนที่ประชาชนของพระองค์ จะสามารถดำรงชีพอยู่ได้ และจะได้พัฒนาอาณาจักรให้เจริญรุ่งเรืองต่อๆไป ดังนั้น พระองค์ จึงทรงอพยพผู้คนไปตั้งรกรากยังดินแดนแห่งใหม่บนแผ่นดิน เทอร์ซีทีย่า (Te Xi Ti Ya) ที่กว้างใหญ่ไพศาล พระองค์และประชาชนของพระองค์ ได้บุกเบิกที่ดินที่รกร้างว่างเปล่าแห่งหนึ่งและทรงสร้างอาณาจักร ขึ้นมาใหม่โดยให้ชื่อว่า อาณาจักรคาร์เออร์เทอร์ฮานน่า (Ka Er Te Han Na Kingdom) แต่การอพยพมาครั้งนี้ผู้อพยพไม่สามารถที่จะกลับไปยังอาณาจักรคาร์ลัวเทอร์ลัน (Ka Luo Te Lan Kingdom) ได้อีก เพราะนอกจากระยะทางที่ยาวไกลแล้วยังมีภัยอันตรายจากสัตว์ประหลาดนานาชนิดตลอดเส้นทางหากกำลังไม่เพียงพอคงยากที่จะมีชีวิตรอดไปถึงได้
ยิ่งนานวันอาณาจักรก็ยิ่งเจริญรุ่งเรืองขึ้นชีวิตความเป็นอยู่บนแผ่นดินใหม่ของผู้อพยพก็มั่นคงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเหตุนี้อาณาจักร คาร์เออร์เทอร์ฮานน่า (Ka Er Te Han Na Kingdom) จึงต้องเผชิญกับปัญหาการเพิ่มจำนวนของประชากรและปัญหาที่ดินไม่พอทำกิน พระราชาจึงส่งคณะสำรวจกองทหารต่อสู้สัตว์ประหลาดตลอดจนทหารรับจ้างอีกทั้งยังได้รวบรวมประชาชนทั่วอาณาจักรเข้าร่วมแผนการขยายดินแดนออกไปในแผนการนี้ไม่ว่าจะด้วยพระราชโองการของพระราชาหรือด้วยความสมัครใจก็ดี ทุกคนล้วน “บุกเบิกและผจญภัย” ด้วยกำลังของตนเอง ทำให้คำว่า “บุกเบิกและผจญภัญ” กลายเป็นสโลแกนของยุคนี้ไปโดยปริยาย ในการบุกเบิกทุกคนอาศัยแต่อาวุธของตนผจญภัยไปตามที่ต่างๆ บนผืนแผ่นดินเทอร์ซีทีย่า (Te Xi Ti Ya) อันกว้างใหญ่โดยไม่หยุดหย่อน แต่กระนั้นก็ตามผืนแผ่นดินก็ยังไม่เพียงพอต่อจำนวนประชาชนแห่งอาณาจักรคาร์เออร์เทอร์ฮานน่า (Ka Er Te Han Na Kingdom) อยู่ดีจึงต้องรุกรานอาณาจักรอื่นต่อๆ ไป
การค้นพบอาณานิคม อาณาจักรคาร์เออร์เทอร์ฮานน่า (Ka Er Te Han Na Kingdom) อาศัยกองทัพอันเกรียงไกรทำสงครามรุกรานมาตลอดกว่า 100 ปี ปัจจุบันครอบครองอาณาเขตถึง1 ใน 3 ของแผ่นดิน เทอร์ซีทีย่า (Te Xi Ti Ya) อาณาจักรอื่นที่เหลือจึงรวมเป็นพันธมิตรกัน เพื่อต่อต้านการรุกรานจาก อาณาจักรคาร์เออร์เทอร์ฮานน่า (Ka Er Te Han Na Kingdom)
เมื่อฝ่ายหนึ่งรุกรานอีกฝ่ายหนึ่งป้องกันการรุกรานเป็นเช่นนี้มายาวนานร่วม 10 ปี จึงได้มีการพบดินแดนแห่งใหม่ทางตะวันออกของแผ่นดิน เทอร์ซีทีย่า (Te Xi Ti Ya) พระราชาจึงทรงส่งทหารไปบุกเบิกแผ่นดินแห่งใหม่โดยทรงมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งพระราชโอรสองค์ที่ 2 เป็นหัวหน้าในปฏิบัติการครั้งนี้ภายใต้การนำของพระราชโอรสองค์ที่ 2 ได้ทำการสำรวจถึงสองครั้งเพื่อความมั่นใจ พระราชาจึงทรงใช้ผลจากการสำรวจทั้ง 2 ครั้งแล้วตัดสินใจประกาศแผนการกระจายประชากรออกไปยังดินแดนแห่งใหม่นี้
ปี 487 พระราชโอรสองค์ที่ 2 ได้ขึ้นเป็นผู้ปกครองดูแลแผ่นดินใหม่แทนพระราชา ตามพระราชโองการของพระราชา หลังจากพบแผ่นดินนี้ได้ 4 ปีโดยตั้งเป็นอาณาจักรที่มีชื่อว่า คาร์เออร์เทอร์หลานเตอร์ (Ka Er Te Lan De) ซึ่งถือเป็นอาณานิคมของอาณาจักรคาร์เออร์เทอร์ฮานน่า (Ka Er Te Han Na Kingdom) โดยการอพยพในครั้งแรกนั้นอพยพมาตั้งรกราก และสร้างเมืองที่บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของดินแดนก่อน เพื่อเป็นการเปิดทางให้กับคนรุ่นต่อไป แต่เนื่องจากงบประมาณ และจำนวนคนมีไม่เพียงพอการอพยพจึงจำเป็นต้องดำเนินการเป็นครั้งที่ 2 แต่เพราะสถานการณ์ต่างๆ และการรุกรานของพวกสัตว์ประหลาดการอพยพโยกย้ายครั้งที่ 2 จึงล่าช้ากว่าแผนการที่วางไว้มาก
ปี 491 พระราชาทรงเสด็จสวรรคตกะทันหัน พระราชโอรสองค์โตจึงสืบทอดราชสมบัติพระราชโอรสองค์โตทรงคลางแคลงพระทัยในพระราชโอรสองค์ที่ 2 ว่าจะร่วมกับประชาชนที่อพยพไปก่อนหน้านี้วางแผนก่อกบฏซึ่งเป็นเพียงการคาดเดาของพระราชโอรสองค์โตและข้าราชบริพารเท่านั้นซึ่งไม่มีหลักฐานแต่อย่างใดพระโอรสองค์โตจึงทรงระงับการอพยพผู้คนครั้งที่ 2 ไว้ก่อนเพื่อที่จะได้ส่งสิ่งที่คาดว่าจะเป็นปัญหา ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่ออำนาจความมั่นคงของอาณาจักรที่พระราชโอรสองค์โตทรงสืบทอดราชสมบัติไม่ว่าจะเป็นกองกำลังทหาร หรือกลุ่มที่ต่อต้านพระราชโอรสองค์โต
พระราชโอรสองค์ที่ 2 รอคอยมานานไม่เห็นวี่แววว่าจะมีการอพยพโยกย้ายมาจึงส่งคนไปยัง อาณาจักรคาร์เออร์เทอร์ฮานน่า (Ka Er Te Han Na Kingdom) เพื่อสอบถามแต่พระราชโอรสองค์โตกลับส่งทหารมาโจมตีแผ่นดินใหม่ทันทีแต่กองทัพที่ต้องเดินทางยาวไกล ทหารจึงเหน็ดเหนื่อยหมดเรี่ยวแรง เมื่อมาถึงแผ่นดินใหม่จึงทำลายแค่เรือเพียงไม่กี่ลำ และสิ่งก่อสร้างไม่กี่หลัง ก็ต้องถอยทัพกลับไป
สถานการณ์เริ่มต้นของอาณานิคม
จากเหตุการณ์และความคลางแคลงใจดังกล่าว ทำให้ อาณาจักรคาร์เออร์เทอร์หลานเตอร์ (Ka Er Te Lan De) มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนักกับ อาณาจักรคาร์เออร์เทอร์ฮานน่า (Ka Er Te Han Na Kingdom) ซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคม จึงเริ่มมีกลุ่มที่ต้องการจะเป็นใหญ่และต่อต้านพระราชโอรสองค์ที่ 2 ยิ่งนานวันเข้า กองกำลังที่คิดต่อต้านพระราชโอรสองค์ที่ 2 ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นพวกชนชั้นสูงเริ่มมีการก่อกบฏแต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามก็ไม่สามารถล้มการปกครองของพระราชโอรสององค์ที่ 2 ได้แต่กลับยิ่งทำให้พระราชอำนาจของพระราชโอรสองค์ที่ 2 ยิ่งทรงเพิ่มขึ้นจนไม่มีใครกล้าสงสัยในอำนาจการปกครองของพระองค์อีก
ตลอด 4 ปี ที่พระราชโอรสองค์ที่ 2 ทรงปกครอง อาณาจักรคาร์เออร์เทอร์หลานเตอร์ (Ka Er Te Lan De) อยู่นั้นทรงให้ความสำคัญกับการก่อตั้งเมืองหลวงมากได้มีการก่อสร้างกำแพงเมืองป้องกันอย่างแข็งแรง ปรับปรุงการบริหารบ้านเมือง และการทหารลดช่องว่างความแตกต่างระหว่างชนชั้นเพื่อเป็นพื้นฐานการพัฒนา คาร์เออร์เทอร์หลานเตอร์ (Ka Er Te Lan De) พระองค์ทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาและวิจัยการใช้เวทย์มนต์
สถานการณ์ในปัจจุบัน
หลังจากที่พระราชโอรสองค์ที่ 2 สวรรคตแล้วได้เกิดการปฏิวัติขึ้น ภายใต้การนำของ คุนลาติง (Kun La Ding) ประกาศเอกราชแห่งอาณาจักรคาร์เออร์เทอร์หลานเตอร์ (Ka Er Te Lan De) จากการเป็นอาณานิคมของอาณาจักรคาร์เออร์เทอร์ฮานน่า (Ka Er Te Han Na Kingdom)
นอกจากนี้ คุนลาติง (Kun La Ding) ยังได้สถาปนาตนเป็นปฐมกษัตริย์ของอาณาจักรคาร์เออร์เทอร์หลานเตอร์ (Ka Er Te Lan De Kingdom) แห่งนี้และนำผู้อพยพรุ่นที่ 2 ไปบุกเบิกดินแดนใหม่รวบรวมกำลังไพร่พล เพื่อขยายอาณาเขตออกไปเร่งซ่อมแซมกำแพงป้องกันรอบนอกเมืองหลวงให้แข็งแรงขึ้นทำให้ปริมาณผลผลิตทางการเกษตรสูงขึ้น แต่ปัญหาจำนวนประชากรและที่ดินทำกินไม่มีทีท่าว่าจะลดลง แต่ก็เป็นปกติธรรมดาของทุกอาณาจักรที่มีความเจริญรุ่งเรือง กับปัญหาเรื่องที่ดินทำกินที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้น คุนลาติง (Kun La Ding) จึงเริ่มต่อสู้กับสัตว์ประหลาดเพื่อขยายดินแดน อาณาจักรคาร์เออร์เทอร์หลานเตอร์ (Ka Er Te Lan De Kingdom)ออกไป จากที่อาศัยการป้องกันเป็นสำคัญตลอดเวลา แต่ตอนนี้กลับเป็นมนุษย์ที่ไม่หยุดรุกรานที่ดิน ของสัตว์ประหลาด ชาวบ้านและทหารก็ยังไม่หยุดเสี่ยงชีวิตอพยพไปตั้งถิ่นฐานยังที่ใหม่
วัฏจักรแห่งช่วงเวลาสงครามอันยาวนานที่ผู้คนไม่คำนึงถึงชีวิตตนหากแต่คำนึงถึงเพียงดินแดนแห่งใหม่ ไม่ว่าจะเป็นนักสำรวจ นักสู้-สัตว์ประหลาด นักจัดทำแผนที่ ทหารรับจ้าง และนักผจญภัยอิสระจึงได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง และนี่คือที่มาแห่งการผจญภัยอย่างเป็นทางการ ณ จุดนี้
กำเนิดอาณาจักรเมอร์คาเดียร์ (Mer’kha-dia Kingdom)
อีกฟากหนึ่งของแผ่นดินใหญ่ในอดีต ซึ่งเป็นยุคแห่งความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมของแผ่นดินใหญ่นั้นมีมนุษย์เผ่าหนึ่ง ที่เกิดจากมนุษย์โบราณที่ล่มสลายทางอารยธรรมไปโดยไม่มีใครทราบ ถึงสาเหตุแท้จริง ซึ่งชนเผ่านี้ เป็นมนุษย์ที่มีความแตกต่างจากมนุษย์เผ่าอื่น ๆ เป็นอย่างมากจึงเรียกว่า เผ่ากลายพันธุ์ (A' khan) บ้างก็เรียกว่า “อสูร” ซึ่งเป็นชนเผ่าที่ไม่ได้รับการยอมรับ จากมนุษย์เผ่าอื่น ๆ จึงต้องแยกตัวออกมา แต่เคราะห์กรรมของ A' khan ไม่ได้หมดแค่นี้แต่พวกเขาต้องเผชิญกับยุคแห่งความยุ่งเหยิง (ภายหลังเรียกว่ายุคแห่งความหายนะครั้งใหญ่) เพื่อความอยู่รอดของตนเอง A’ khan จึงต้องรวมกลุ่มกันเพื่อความอยู่รอดจากการถูกคุกคามจากสัตว์ประหลาด แต่ยิ่งนานวันสัตว์ประหลาดก็ยิ่งดุร้ายมากขึ้นแม้แต่การรวมกลุ่มกันก็ไม่อาจอยู่รอดได้ดังนั้นพวก A’khan จึงต้องอพยพไปยังที่ที่ปลอดภัย
A’khan เดินทางผ่านอันตรายมากมาย ในที่สุด ก็พบสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับพวกเขา คือ อาณาจักรเคอร์ตียา (Ker’ Ti Ya Kingdom) ในอดีตเนื่องจากอาณาจักรนี้ถูกทำลายไปมากในยุคแห่งความหายนะครั้งใหญ่จนเหล่าสัตว์ประหลาดไม่อาจดำรงชีวิตอยู่ได้ โดยดินแดนนี้ถือได้ว่าเป็นดินแดนแห่งการทดลองที่ใหญ่ที่สุดบนแผ่นดินนี้เพราะเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่าซึ่งมนุษย์ต่างดาวในยุคก่อน ใช้เป็นฐานในการทดลองต่าง ๆ ถึงแม้สิ่งแวดล้อมจะเลวร้ายอย่างมาก ๆ แต่ก็เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยจากการถูกรุกรานที่สุด
เมื่อได้ตั้งรกรากบนดินแดนแห่งการทดลองที่ใหญ่ที่สุดแล้ว A’khan ได้ตระหนักว่าถ้าอยากจะอยู่ให้รอดบนโลกใบนี้จะต้องมีความสามารถ พวกเขาจึงตัดสินใจพัฒนาความรู้ ความสามารถของตน โดยนำอาวุธ ยุทโธปกรณ์ที่มนุษย์ต่างดาวในยุคก่อนเคยวิจัยแล้วถูกทิ้งไปกลับมาทำการวิจัยใหม่ด้วยความพยายามในที่สุดก็ค้นพบความสามารถที่จะทำให้ตนเองป้องกันจากการโจมตีของสัตว์ประหลาดได้ และพวกเขาก็ได้ขนานนามดินแดนแห่งนี้ว่าเป็นอาณาจักรเมอร์คาเดียร์ (Mer’khadia Kingdom) ซึ่งเป็นอาณาจักรของพวกเขานั่นเอง
เวลาผ่านไป A’khan ไม่ใช่ชนเผ่าที่เกิดจากคนโบราณเผ่าหนึ่งอีกต่อไป หากแต่เป็นชนเผ่าที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งมีชีวิตในโลกนี้ และยังเป็นองค์กรที่สามารถชี้แนะการแข่งขันบนโลกนี้ได้อีกด้วย
Mer’kha-dia Kingdom ในปัจจุบัน
หลังจากได้รับการยอมรับให้เป็นชนเผ่าหนึ่งบนโลกใบนี้แล้ว A’khan ได้ก่อตั้งองค์กรขึ้นที่ อาณาจักร เมอร์คาเดียร์ (Mer’kha-dia Kingdom) เมื่อเวลาผ่านไปอาณาจักรเมอร์คาเดียร์ (Mer’kha-dia Kingdom) ได้มีชนเผ่าต่างๆ เพิ่มมากขึ้นดังนั้นจึงจำเป็นต้องขยายอาณาเขตของดินแดนไปยังที่อยู่ของสัตว์ประหลาด
เวลานี้ A’khan ส่วนใหญ่ในดินแดนที่มีความต้องการความปลอดภัยอยู่ในจิตใจมาเป็นเวลานานต้องลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ด้วยเหตุนี้ในประวัติศาสตร์จึงเกิดเหตุการณ์การโจมตีครั้งที่ 2 ซึ่งยุคนี้ได้ชื่อว่า “Age of The Second Sacrifice” (ยุคแห่งการสละชีพครั้งที่ 2) และประชาชนแห่ง อาณาจักรเมอร์คาเดียร์ (Mer’kha-dia Kingdom) ต่างเห็นแก่ความอยู่รอดของชนเผ่า เมื่อดินแดนต้องการขยายอาณาเขต ก็สมัครใจไปเข้าร่วมเพื่อชนเผ่าและอาณาจักรก็ยอมที่จะสละชีพของตนเอง และเดินทางไปยังดินแดนที่ไม่มีใครรู้จัก
จากเรื่องราวของทั้งสองเผ่าพันธุ์ ทั้ง มนุษย์ และ A’khan หรือที่เรียกว่า อสูร ต่างฝ่ายต่างก็มุ่งหวังที่จะขยายดินแดนออกไป เพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ แต่ด้วยผืนแผ่นดินมีอยู่จำกัดจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีแผ่นดินเพียงพอต่อความต้องการของทั้งสองเผ่าพันธุ์ ฉะนั้นไม่วันใดก็วันหนึ่งทั้งสองเผ่าคงต้องโคจรมาเจอกัน ด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกัน แล้วสิ่งที่จะเกิดขึ้นนั้นไม่มีใครสามารถบอกได้เลยว่า การคงอยู่ของสองเผ่าพันธุ์จะเป็นไปอย่างไรมีแต่คุณเท่านั้นที่จะเป็นผู้กำหนดสิ่งที่จะเกิดต่อไปมาร่วมผจญภัยไปด้วยกันใน R.Y.L(Risk Your Life)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น